BE8 วางเป้าหมาย 3 ปีรายได้ทะลุ 5 พันล้าน ปักธงขึ้นผู้นำ Digital Transformation เอเชียแปซิฟิก
เบริล 8 พลัส เปิดเกมรุกก้าวขึ้นสู่ผู้นำ Digital Transformation ในเอเชียแปซิฟิก วางเป้าหมาย 3 ปีรายได้รวมทะลุ 5 พันล้าน ลั่นปีนี้มีความพร้อมแข่งขันทุกรูปแบบ มุ่งเติบโตจาก “กิจการร่วมค้า-ตลาดต่างประเทศ” ปูพรมขยายฐานลูกค้าทุกอุตสาหกรรม ซุ่มเจรจาบริษัทชั้นนำกลุ่ม “ประกันภัย-ก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์–เทคโนโลยี” หวังเป็นพันธมิตรสร้างธุรกิจร่วมกัน โดยใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อน
นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2566 บริษัทจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าไปในทุกอุตสาหกรรม หลังจากที่กระบวนการควบรวมกิจการกับพันธมิตรสำเร็จทั้ง 4 บริษัท ทำให้กลุ่ม BE8 สามารถสร้าง Digital Transformation Ecosystem ที่สมบูรณ์มีศักยภาพครบทุกด้านเพื่อก้าวเป็นผู้นำ Digital Transformation ในเอเชียแปซิฟิก โดยบริษัทได้วางเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี รายได้รวมของกลุ่ม BE8 จะขึ้นสู่ระดับ 5 พันล้านบาท ขณะที่ปี 2566 ประเมินว่ารายได้รวมจะทะลุ 2 พันล้านบาท
นายอภิเษก กล่าวต่อว่า หัวใจสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ BE8 มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดและมีความแข็งแกร่งในปีนี้ นอกเหนือจากการเติบโตของธุรกิจภายใน (Organic Growth) ที่มีการเติบโตสูงแล้ว ยุทธศาสตร์สำคัญที่จะมาสนับสนุนให้บริษัทบรรลุเป้าหมายก็คือ การเติบโตจากธุรกิจที่เป็นกิจการค้าร่วม (Joint Venture) BE8 สามารถสร้าง Digital Transformation Ecosystem ที่แข็งแกร่งครบวงจร มีความพร้อมและมีโอกาสที่จะได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม ในการสร้างธุรกิจและบริการใหม่ๆ ที่ใช้ Technology ในการขับเคลื่อน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัทชั้นนำในหลายอุตสาหกรรมทั้ง ประกันภัย ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และเทคโนโลยี จากก่อนหน้าบริษัทได้ประสบความสำเร็จในการเป็นพันธมิตรกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
นอกจากนี้ BE8 ยังมีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้าน Digital Transformation ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยก่อนหน้านี้ช่วงปี 2562 บริษัทได้มีการตั้งบริษัทย่อยที่ประเทศเวียดนาม
“ปีนี้ BE8 มีความพร้อมในการแข่งขันทุกรูปแบบ เรามีผู้บริหารและบุคลากรมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูงในการให้บริการด้าน Digital Transformation ก้าวต่อไปคือการเร่งโตจากพันธมิตรที่เราควบรวมกิจการ เพื่อเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย ขณะที่ตลาดด้าน Digital Transformation ยังโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Cyber Security ที่ต้องปรับตัวทั้งกับภัยคุกคามและข้อบังคับทางกฎหมายพ.ร.บ.ไซเบอร์ และตอนนี้ยังมีเรื่องของ Virtual Banking หรือธนาคารไร้สาขา ที่จะทำให้เกิดการลงทุนในด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ” นายอภิเษก กล่าว
ในปีที่ผ่านมา BE8 ได้มีการควบรวมกิจการกับบริษัท เอคซเทนด์ ไอที รีซอร์ส จำกัด หรือ X10 ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของไทย มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการวางโครงสร้างการเชื่อมต่อระบบ Technology Integration Platform เป็นผู้นำการพัฒนาระบบ MuleSoft ในประเทศไทย รวมทั้งการควบรวมกิจการกับ บริษัทเบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด หรือ เบย์คอม ซึ่งเป็นผู้นำ Cyber Security อันดับต้นๆ ของประเทศ
นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างกระบวนการเข้าไปร่วมทุนกับบริษัท วานิลลา แอนด์ เฟรนด์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจด้านที่ปรึกษาการทำ Branding และการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร ในสัดส่วน 51% และเข้าไปถือหุ้นในบริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ในสัดส่วน 20 % ซึ่งบริษัทดังกล่าวทำธุรกิจเกี่ยวกับบริษัทสื่อเทคโนโลยีและธุรกิจออนไลน์ ที่นำเสนอคอนเทนต์เพื่อวงการ Tech ในโลกธุรกิจ ครอบคลุมทั้งในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเป็นรายแรกผู้จัดงาน Tech Conference เชื่อมต่อคนเอเชียและคนทั่วโลก ซึ่งตามแผนกระบวนการร่วมทุนทั้ง 2 บริษัทจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนนี้
“การควบรวมกิจการที่สำเร็จทั้งในส่วนของ X10 เบย์คอม รวมทั้งดีลร่วมทุนกับ วานิลลา และเทคซอส ที่จะจบในเร็วๆ นี้ จะสร้าง Digital Transformation Ecosystem ที่สมบูรณ์ ทำให้ BE8 มีศักยภาพครบทุกด้าน เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำ Digital Transformation ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผลักดันผลประกอบการของกลุ่ม BE8 เติบโตก้าวกระโดดและแข็งแกร่ง”นายอภิเษกกล่าว