การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM (Customer Relationship Management) ถือเป็นหัวใจหลักสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบันในฐานะกลยุทธ์การบริหารจัดการรูปแบบหนึ่งที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจและองค์กรสามารถจัดการและดำเนินการกระบวนการภายในต่าง ๆ ได้อย่างสอดคล้องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุด รวมไปถึงสร้างและรักษาความซื่อสัตย์ของลูกค้าที่มีต่อองค์กร นำมาซึ่งความภักดีของลูกค้าจนนำไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้นและผลกำไรในระยะยาว ซึ่งแม้แพลตฟอร์ม CRM จะเป็นเครื่องมือที่สามารถดูแลและจัดการกับกระบวนการเหล่านั้นได้อย่างครอบคลุม แต่จะดีกว่าไหมหากองค์กรของคุณมีเครื่องมืออีกชิ้นหนึ่งที่จะช่วยเสริมทัพให้การทำ CRM นั้นประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในแง่ของการขาย เครื่องมือที่เรากำลังกล่าวถึงนี้มีชื่อว่า “Sales Force Automation”

 

Sales Force Automation คืออะไร?

Sales Force Automation หรือ SFA เป็นซอฟต์แวร์จาก Salesforce ที่ใช้สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพทางการขายโดยอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการงานให้เป็นไปโดยอัตโนมัติตั้งแต่การแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร การติดตามการสั่งซื้อ การคาดการณ์การขาย การจัดการรายชื่อผู้ติดต่อ การตรวจสอบสินค้าคงคลัง การติดตามและประเมินการทำงานของพนักงาน เป็นต้น โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งคุณลักษณะและฟังก์ชันต่าง ๆ เหล่านี้ให้เหมาะสมกับองค์กรหรือธุรกิจได้

 

หน้าที่ของ Sales Force Automation

Sales Force Automation เป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอย่างครอบคลุม โดยรับผิดชอบหน้าที่หลัก ๆ ดังนี้

  • บริหารจัดการอาณาเขตการขาย (Sales Territory)
  • บริหารจัดการโอกาสทางการขายและติดตามคู่แข่ง
  • คาดการณ์การขาย
  • จัดการคำสั่งซื้อ
  • เพิ่มการซื้อต่อเนื่อง (Up-Selling) และการซื้อต่อยอด (Cross-Selling)

 

6 เหตุผลที่องค์กรของคุณควรมีระบบ Sales Force Automation

  1. เพิ่มประสิทธิภาพในการขายด้วยเทคโนโลยีการขายแบบเปิด

ทราบหรือไม่ว่าพนักงานขายใช้เวลากว่า 64% ของชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันไปกับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าใหม่และงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การขายโดยตรง แต่ด้วย SFA ทีมขายจะสามารถทำงานได้อย่างสะดวกมากขึ้นด้วยการวิเคราะห์ที่ชาญฉลาดและฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ที่ใช้งานง่ายเพียงแค่มีสมาร์ทโฟน ซึ่ง SFA จะทำให้กระบวนการขายเป็นไปโดยอัตโนมัติ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความซับซ้อนของการดำเนินงานในขั้นตอนต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เครื่องมือการจัดการลูกค้าสัมพันธ์มีความทันสมัยและเป็นปัจจุบันยิ่งขึ้น

 

  1. สร้างฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขาย

SFA จะช่วยวิเคราะห์หาและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า (Lead) ผ่านการโต้ตอบที่แม่นยำและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยที่พนักงานขายไม่จำเป็นต้องสร้างบทสนทนาโต้ตอบกับกลุ่มเป้าหมายทุกรายด้วยตนเอง เนื่องจาก SFA สามารถจัดการงานที่เป็นเรื่องธรรมดาและซ้ำซากเหล่านี้ รวมถึงงานเอกสารได้อย่างสะดวกสบาย ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร อีกทั้งช่วยให้พนักงานมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าเป้าหมายที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการและมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าอย่างแท้จริง

 

  1. ลดความซับซ้อนของงานขาย

กระบวนการทำงานที่สอดคล้องและประสานกันอย่างเป็นเอกภาพระหว่างทีมขายและทีมการตลาดไม่เพียงแต่จะลดโอกาสที่จะสูญเสียหรือทำรายชื่อผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าตกหล่น แต่ Sales Force Automation ยังช่วยเก็บข้อมูลส่วนบุคคล กิจกรรม และข้อมูลต่าง ๆ ของกลุ่มเป้าหมายแต่ละรายอย่างเป็นระบบในฐานข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวแทนที่การใช้ซอฟต์แวร์ตารางคำนวณ (Spreadsheet) แบบเดิมหรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่ล้าสมัย โดย SFA นั้นยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพและรองรับการทำงานสำหรับองค์กรทุกขนาดอีกด้วย

 

  1. จัดลำดับความสำคัญ

ซอฟต์แวร์ SFA จะช่วยวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของงานอย่างแม่นยำ ช่วยให้ทีมขายทราบลำดับความสำคัญของงานแต่ละชิ้น รวมไปถึงข้อเสนอหรือการขายที่มีศักยภาพ พร้อมวิเคราะห์ศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายจากแคมเปญการตลาดที่ติดต่อผ่านทางเว็บไซต์หรือโทรศัพท์ ช่วยพนักงานขายในการจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม SFA ยังมีฟังก์ชันส่งการแจ้งเตือนไปยังทีมขายผ่านทางอีเมลเพื่อเตือนให้ติดตามลูกค้าที่มีศักยภาพเพื่อให้เจรจาการค้าจนสำเร็จได้เร็วขึ้น

 

  1. คาดการณ์ยอดขาย

เมื่อระบบ Sales Force Automation ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ CRM องค์กรของคุณก็จะมีเครื่องมือที่ทรงพลังในการคาดการณ์ยอดขายที่แม่นยำ ซึ่งจะคำนวณได้จากข้อมูลต่าง ๆ เช่น ใบเสนอราคา คำสั่งซื้อ หรือข้อเสนอต่าง ๆ รวมไปถึงการคาดการณ์รายได้ต่อเนื่อง (Recurring Revenues) และรายได้จากการจองซื้อสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

 

  1. เพิ่มการซื้อต่อเนื่องและการซื้อต่อยอด

การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นส่งผลโดยตรงต่อความภักดีของลูกค้าและผลกำไรขององค์กร Sales Force Automation สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม CRM ซึ่งสามารถแสดงประวัติคำสั่งซื้อและพฤติกรรมของลูกค้าในอดีตที่ผ่านมา จากนั้นจึงสร้างแคมเปญอีเมลอัตโนมัติที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มเพื่อผลักดันให้เกิดการซื้อต่อเนื่องและการซื้อต่อยอดโดยอัตโนมัติโดยที่พนักงานขายไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับการวิเคราะห์ด้วยตนเอง

 

จะเห็นได้ว่าซอฟต์แวร์ Sales Force Automation จาก Salesforce ช่วยให้ทีมขายไม่ต้องเสียเวลาไปกับการทำระบบเอกสารซ้ำ ๆ ในแต่ละวัน และยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกต้องมากขึ้นด้วยระบบประมวลผลที่แม่นยำ ช่วยอำนวยความสะดวกในการขายได้เป็นอย่างดีและทำให้การขายเป็นเรื่องที่สะดวกรวดเร็วเป็นอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพได้อย่างแท้จริง การนำระบบ Sales Force Automation มาใช้จึงส่งผลให้ยอดขายสูงขึ้นและนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในที่สุด

 

Beryl 8 บริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบระบบ CRM และ Salesforce Partner ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีประสบการณ์การทำงานกับ Salesforce Customer Success Platform Suite มามากกว่า 10 ปี ทีมที่ปรึกษาของ Beryl8 ได้ผ่านการรับรองจากทาง Salesforce ด้วย Cloud Certifications ประกาศนียบัตรรับรองความสามารถกว่า 150 ใบ พร้อมจะช่วยให้องค์กรของคุณเติบโตอย่างมั่นคงด้วยการบูรณาการระหว่างแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการขายอย่าง Sales Force Automation กับเครื่องมือขององค์กรของคุณ เช่น CRM หรือ ERP ซึ่งคุณจะสามารถเห็นกระบวนการขายในภาพรวม พร้อมกับข้อมูลเชิงลึก เพิ่มโอกาสในการกระตุ้นการรับรู้และความสนใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าและบริการ (Demand Generation) เพื่อผลักดันกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าขององค์กรได้ในที่สุด