Agentforce ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับลูกค้า ตั้งแต่การสนทนาแบบส่วนตัวไปจนถึงกลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าเเบบเชิงรุก วิธีการต่างๆมีดังนี้

การสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับลูกค้าไม่ได้เป็นเพียงเเค่เป้าหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกด้วย ลูกค้าคาดหวังว่าแบรนด์จะรู้จักพวกเขา เข้าใจความต้องการของพวกเขา และมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกการติดต่อ ฐานข้อมูลและระบบ AI สามารถช่วยให้นักการตลาดเข้าถึงลูกค้าเหล่านี้ด้วยวิธีรูปเเบบใหม่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หลายองค์กรก็ยังห่างไกลจากการเข้าถึงศักยภาพนี้ ตามรายงาน State of Marketing ของ Slaesforce มีนักการตลาดเพียง 32% เท่านั้นที่พึงพอใจเต็มที่กับวิธีที่พวกเขาใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง แล้วนักการตลาดจะก้าวต่อไปอย่างไร เเละนี่คือ Agentforce แอปพลิเคชั่นอัตโนมัติเชิงรุกที่ให้การสนับสนุนเฉพาะด้านตลอดเวลาแก่พนักงานและลูกค้า

Agentforce ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตั้งแต่การสนทนาแบบส่วนตัวไปจนถึงกลยุทธ์การรักษาลูกค้าเเบบเชิงรุก เรามาสำรวจ 5 กรณีการใช้งานที่คุณสามารถสร้างเอเจนท์เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้

1. ทำให้การสนทนาโต้ตอบบน WhatsApp เป็นเเบบอัตโนมัติเฉพาะบุคคล

การโต้ตอบแบบตัวต่อตัวกับลูกค้าทุกรายที่อาจตอบสนองต่อแคมเปญส่งเสริมการขายบน WhatsApp ถือเป็นงานที่ยากลำบากสำหรับทีมการตลาด ในอดีตที่ผ่านมาความสามารถของแชทบอทนั้นมีจำกัด ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เพียงคำหลักๆ ได้เท่านั้น หรือไม่สามารถตอบข้อความบน WhatsApp ได้เลย แต่ด้วย Agentforce คุณสามารถเชื่อมต่อกับเอเจนท์อัตโนมัติที่ทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยส่วนตัวได้โดยตรงจากเธรด WhatsApp

ลองนึกภาพว่าลูกค้าที่ได้รับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาสนใจ พวกเขาก็ตอบกลับด้วยคำถาม และเอเจนท์ก็สามารถตอบกลับได้ทันทีด้วยคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ปรับเเต่งให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล ข้อเสนอปัจจุบัน หรือแม้แต่ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หากลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าเเล้ว เอเจนท์สามารถแนะนำลูกค้าตลอดกระบวนการชำระเงินทั้งหมด ตั้งแต่การทำธุรกรรมจนเสร็จสิ้นไปจนถึงการส่งสถานะอัพเดทคำสั่งซื้อ หากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม Agentforce จะโอนการสนทนาไปยังตัวแทนฝ่ายบริการที่เป็นมนุษย์ได้อย่างต่อเนื่องเเละราบรื่น

เหตุใดจึงสำคัญ: แนวทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายโดยการรักษาการมีส่วนร่วมของลูกค้า แต่ยังสร้างความพึงพอใจและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อเเบรนด์ผ่านการตอบสนองที่เหมาะสมและทันท่วงทีด้วยการลดภาระของทีมสนับสนุน Agentforce จะช่วยมอบประสบการณ์ที่มีกับเเบรนด์ให้ราบรื่นเเละให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเเบบเเท้จริงอย่างต่อเนื่อง

2. จัดกิจกรรมส่วนตัวให้ตรงกับความต้องการสำหรับผู้เข้าร่วมอีเวนท์

งานอีเวนท์เป็นเครื่องมืออันล้ำค่าสำหรับนักการตลาดในการสร้างความสัมพันธ์และมอบประสบการ์ณที่มีค่าให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้เข้าร่วมแต่ละคนค้นพบเซสชั่นและโปรดักส์ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขามากที่สุดอาจยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย การปล่อยให้ผู้เข้าร่วมค้นหาเซสชั่นที่เกี่ยวข้องกับพวกเขามากที่สุดอาจส่งผลให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะมีการล้มเลิกความสนใจในการลงทะเบียน Agentforce for Marketing สามารถช่วยคุณต้อนรับผู้เยี่ยมชมบนเว็บไซต์อีเวนต์ของคุณ โดยให้ความช่วยเหลือแบบส่วนตัว 1:1 แก่ทุกคนอย่างมีประสิทธิภาพ

เอเจนท์อัตโนมัติสามารถแนะนำเซสชั่นตามความสนใจและช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกำหนดหัวข้อหรือกิจกรรมส่วนตัวที่พวกเขาต้องการได้ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลในการเข้าร่วมและการมีส่วนร่วมในอดีตที่ผ่านมา เอเจนท์สามารถจัดการคัดเลือกกิจกรรมที่สอดคล้องกับความชอบและลำดับความสำคัญของผู้เข้าร่วมแต่ละคน ตั้งแต่ key note ไปจนถึงเซสชั่นแยกย่อยต่างๆ สำหรับผู้เข้าร่วมงานประจำ ตัวแทนยังสามารถแนะนำเนื้อหาใหม่ตามเซสชันที่ผ่านมาและดำเนินการลงทะเบียนให้เสร็จสิ้นตามกิจกรรมที่กำหนดเองได้

เหตุใดจึงสำคัญ: กิจกรรมส่วนบุคคลจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำซึ่งนำไปสู่ความพึงพอใจและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อเเบรนด์ของผู้เข้าร่วม ด้วยการทำให้ registration journey ราบรื่นและลดอัตราการกดออกจากเว็บไซด์ (bounce rate) Agentforce จะสนับสนุนการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และสร้างความสนใจในระยะยาวในทุกอีเวนท์ของคุณ

3. บันทึกและคัดเลือกลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างง่ายดายบนเว็บไซต์ของคุณ

เมื่อผู้เยี่ยมชมเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ ให้ใช้ Agentforce เพื่อต้อนรับพวกเขาด้วยคำแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ปรับเเต่งเฉพาะบุคคลอย่างเหมาะสม นำเสนอเนื้อหาพิเศษ และบันทึกข้อมูลการติดต่อ เอเจนท์สามารถแนะนำเนื้อหาที่ต้องมีการลงทะเบียน เช่น การศึกษาเฉพาะกรณีต่างๆ วิดีโอสาธิต หรือแม้แต่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม หรือการสัมมนาผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม สิ่งนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้เยี่ยมชมต้องเผชิญกับประสบการณ์ที่ต้องนำทางด้วยตัวเองซึ่งมักจะส่งผลให้เกิดอัตราการกดออกจากเว็บไซด์ (bounce rate) ก่อนที่จะมีกลายมาเป็นลูกค้าหรือได้พูดคุยกับตัวแทนฝ่ายขาย

สำหรับลูกค้าที่มีความสนใจสูง ตัวแทนสามารถกำหนดการติดตามผลกับตัวแทนฝ่ายขาย เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับประโยชน์ทันทีโดยไม่มีอุปสรรค วิธีการสนทนาเชิงรุกนี้ช่วยดูแลนำทางพวกเขาไปสู่โซลูชั่นที่เหมาะสมตามความต้องการและความสนใจของพวกเขา

เหตุใดจึงสำคัญ: การเก็บข้อมูลลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแบบอัตโนมัติสามารถช่วยคัดกรองคุณสมบัติได้เร็วขึ้นและเพิ่มโอกาสที่จะกลายมาเป็นลูกค้า ด้วยการทำให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมและผ่านขั้นตอนต่างๆอย่างราบรื่นเเละต่อเนื่อง Agentforce for Marketing จะชักนำลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดโอกาสที่มีคุณภาพสูงขึ้น และท้ายที่สุดคือกลายมาเป็นลูกค้าประจำที่มีความภักดีกับเเบรนด์

4. ปรับปรุงเส้น Customer Journeys ด้วยการจัดลำดับความสำคัญอย่างชาญฉลาด

การทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณมีส่วนร่วมในขณะที่เคารพในความต้องการสื่อสารของพวกเขาอาจต้องอาศัยความสมดุล ก่อนที่ลูกค้าจะถึงขีดจำกัดในการรับข้อมูลการติดต่อ เราควรมอบเส้นทางการเดินทางที่เหมาะสมมากที่สุดให้พวกเขา โดยพิจารณาจากความสนใจและเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ ด้วยการจัดลำดับความสำคัญของการส่งข้อความใหม่ นักการตลาดสามารถมั่นใจได้ว่าเนื้อหาที่มีความสำคัญพิเศษจะถูกส่งในเวลาที่เหมาะสม โดยไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกรบกวน ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าเข้าใกล้ขีดจำกัดในการรับข้อมูลแล้ว ให้ใช้ Agentforce for Marketing เพื่อจัดลำดับความสำคัญของการประกาศผลิตภัณฑ์ตัวใหม่หรือคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมเฉพาะเเบบ VIP โดยจับคู่ความสนใจของลูกค้าให้สอดคล้องกับโอกาสในการมีส่วนร่วมในเวลาที่เหมาะสม

เหตุใดจึงสำคัญ: การจัดลำดับความสำคัญใหม่อย่างชาญฉลาดนำไปสู่อัตราคอนเวอร์ชั่น (conversion rates) ที่สูงขึ้น อัตราการยกเลิกการสมัครที่ต่ำลง และความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แน่นเเฟ้นยิ่งขึ้น ด้วยการปรับตัวแบบไดนามิกตามพฤติกรรมของลูกค้า Agentforce สามารถช่วยให้มั่นใจว่าทุกปฏิสัมพันธ์มีความเหมาะสมเพื่อให้ลูกค้ายังคงมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณโดยไม่รู้สึกว่าถูกรบกวนเเต่อย่างใด

5. ลดอัตราการสูญเสียลูกค้าด้วยโปรโมชันเชิงรุกเเบบส่วนตัวเฉพาะบุคคล

การรักษาลูกค้าไว้มีความสำคัญไม่เเพ้กับการได้ลูกค้ารายใหม่มา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขามีเเนวโน้มที่จะเลิกใช้สินค้าหรือบริการไป เอเจนท์สามารถระบุหาลูกค้าที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ได้โดยการวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ในการเลิกใช้งานเช่น การมีส่วนร่วมต่ำหรือความถี่ในการซื้อที่ลดลง และสามารถส่งโปรโมชันที่ปรับให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติตามโปรไฟล์และแนวทางป้องกันที่กำหนดไว้โดยนักการตลาด

ตัวอย่างเช่น หากคะแนนการเลิกใช้งานของลูกค้าใกล้ถึงเกณฑ์ ให้ติดต่อด้วยการส่งส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิกเก่าหรือสิ่งจูงใจในการต่ออายุซึ่งจะแนะนำพวกเขาตลอดกระบวนการแลกของคะเเนนสะสมหรือสิทธิพิเศษ ด้วยการติดต่อเชิงรุกเเบบมืออาชีพ เอเจนท์จะช่วยระบุเเนวทางที่จะจุดประกายความสนใจและการมีส่วนร่วมก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจจากไป

เหตุใดจึงสำคัญ: กลยุทธ์การรักษาลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI เเบบเชิงรุกช่วยเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า ลดการหยุดเลิกใช้งาน และส่งเสริมความผูกพันธ์ที่มีต่อแบรนด์ Agentforce ยังสามารถช่วยให้นักการตลาดเชื่อมต่อกับลูกค้าที่อาจห่างเหินออกไปเเล้วได้ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

Agentforce เป็นมากกว่าเครื่องมือระบบอัตโนมัติหรือเครื่องมือ co-pilot, มันเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่ช่วยให้คุณส่งมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและเป็นส่วนตัวตรงตามที่ลูกค้าของคุณคาดหวัง ด้วยการสร้างเอเจนท์เพื่อนำใช้ในกรณีการใช้งานทั้ง 5 นี้ นักการตลาดจะสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า เพิ่มอัตราคอนเวอร์ชั่นและสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและยั่งยืนยิ่งขึ้นได้

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Agentforce สามารถติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ คลิก