4 ขั้นตอนในการเริ่มต้นใช้งาน Generative AI ในการตลาดเเบบ B2B

AI ไม่ได้มีไว้สำหรับบริษัทเเบบ B2C เท่านั้น เรามาเรียนรู้กันว่าเทคโนโลยีนี้สามารถปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกค้าและช่วยให้คุณพัฒนาเติบโตได้อย่างไร

นักการตลาด B2B ต่างคุ้นเคยกับการสวมบทบาทหลายหน้าที่ในงาน ตั้งแต่การวางแผนเส้นทางของผู้บริโภคไปจนถึงการสร้างข้อมูลส่วนบุคคลและกลยุทธ์ทางการตลาดเบบเฉพาะกลุ่ม (ABM) ถ้าฟังเเล้วดูเป็นภารกิจที่สาหัส และใช่ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ นักการตลาดทุกคนที่เรารู้จัก สามารถใช้ผู้ช่วยส่วนตัว แต่ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณและทรัพยากรต่างๆที่ลดลง จึงไม่สามารถทำได้เสมอไป ข่าวดีก็คือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตลาดแบบ B2B สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่คุณต้องการได้แล้ว

การวิจัยของ Salesforce พบว่านักการตลาดประเมินว่า AI จะช่วยประหยัดเวลาเฉลี่ยได้ถึง 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามนักการตลาดเกือบ 40% กล่าวว่าพวกเขาไม่รู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากความสามารถใหม่ของ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร โดยเฉพาะ generative AI ซึ่งนั่นหมายความว่าเรายังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการเรียนรู้และการเพิ่มประสิทธิภาพ

มีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้สับสนเกี่ยวกับ การนำ AI มาใช้ คือ เรื่องเกี่ยวกับการยอมรับในองค์กร ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญพอๆ กับการฝึกอบรมรายบุคคล จากรานงานได้มีการพูดคุยกับคุณ Jaime López ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการการตลาดของบริษัทไอเวน.io เกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถจัดตั้งบริษัทและทีมงานได้ทันทีเพื่อความสำเร็จด้าน AI

4 ขั้นตอนในการสร้าง AI ในการตลาดเเบบ B2B

• รวบรวมและเตรียมข้อมูลของคุณสำหรับ AI
• เริ่มต้นบริษัทของคุณให้เป็นผู้นำด้าน AI
• เตรียมระบบ MarTech ของคุณให้พร้อมสำหรับการขยายขนาดและความยืดหยุ่น
• สร้างแผนการใช้งาน AI ที่ปรับขนาดได้และวัฒนธรรมที่เปิดกว้างต่อนวัตกรรมใหม่
• Marketing Cloud Account Engagement สามารช่วย AI ในการตลาดเเบบ B2B ได้อย่างไร

รวบรวมและเตรียมข้อมูลของคุณสำหรับ AI

การจัดระเบียบข้อมูลระหว่างฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดเป็นรากฐานของการตลาดB2Bที่ดี และข้อมูลถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการบูรณาการนั้น โดยโมเดล AI จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนเพื่อสร้างผลลัพธ์คุณภาพสูง และไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมได้ หากไม่มีพื้นฐานข้อมูลที่ดีพอ

นี่เป็นข้อกังวลใหญ่สำหรับนักการตลาด B2B และทีมปฎิบัติงานด้านรายได้ที่มีระบบข้อมูลแบบเเยกส่วนกัน ก่อนที่คุณจะเห็นผลเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่จาก AI ในการตลาด B2B คุณต้องรวมข้อมูลลูกค้าเหล่านั้นทั้งหมดเข้าด้วยกัน

“2 ใน 3 ของนักการตลาดกล่าวว่าข้อมูลของบริษัทซึ่งเป็นเลเยอร์พื้นฐานไม่ได้ถูกสร้างขึ้นสำหรับ generative AI” คุณ López อธิบาย

การสตรีมข้อมูลที่แตกต่างกันมักจะอยู่ในเครื่องมือ แผนก หรือฐานข้อมูลที่แตกต่างกัน สิ่งนี้อาจทำให้การได้รับภาพรวมของลูกค้าให้สมบูรณ์ การระบุมูลค่าของบัญชี และการให้คะแนนหรือการจัดลำดับลูกค้าเป้าหมายเป็นเรื่องยากมาก แต่ก็ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จกระบวนการของลูกค้าที่มีข้อมูลน้อย

นี่คือเหตุผลที่คุณต้องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสำหรับ AI โดยรวมข้อมูลของคุณ - การรวมข้อมูลทั้งหมดของคุณไว้ในแพลตฟอร์มเดียวทำให้ AI ของคุณได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับลูกค้าเพื่อดำเนินงาน พูดง่ายๆ ก็คือ คุณต้องทำให้ข้อมูลนี้สะอาด (ไม่มีข้อผิดพลาดหรือซ้ำซ้อน) และครบถ้วน (ไม่มีข้อมูลขาดหายไป) เพื่อให้ AI สามารถตีความและให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ได้

เริ่มเป็นผู้นำ AI ในองค์กรของคุณ

ข่าวดีก็คือ ทีมการตลาดของคุณมีโอกาสที่ดีในการกำหนดทิศทางของการใช้งาน AI ทั่วทั้งองค์กร ทีมการตลาดอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้ามากกว่าแผนกอื่นๆ และสามารถแสดงให้เห็นว่าการนำ AI มาใช้จะช่วยให้ทำงานอย่างประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไร

“ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดโดยเฉพาะมีมุมมองที่ครอบคลุมทั่วถึงเกี่ยวกับเส้นทางประสบการ์ณของผู้บริโภค พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลมากมาย และมีทักษะในการวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าวได้” คุณ López กล่าว

แต่ทีมการตลาดไม่สามารถทำโดยลำพังได้ ทั้งองค์กรจำเป็นต้องปฏิบัติจากคู่มือการใช้งานเดียวกัน สิ่งนี้ต้องเริ่มต้นด้วยการทำให้แน่ใจว่าองค์กรของคุณมีการบันทึกนโยบายและขอบเขตของการใช้งาน AI อย่างชัดเจน และนโยบายเหล่านั้นต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ขยายตัวขึ้นของคุณด้วย การทำให้ทุกแผนกสามารถเข้าถึงทรัพยากรการฝึกอบรมเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ทีมการตลาดเท่านั้น เเต่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนใช้ AI อย่างมีจริยธรรมและปลอดภัย

การนำ AI มาใช้ทั่วทั้งองค์กรอาจเป็นเรื่องที่ยาก คุณต้องเริ่มต้นด้วยการใช้งานเเบบจำกัดและมีประสิทธิภาพ มันน่าดึงดูดใจที่จะนำ AI ไปใช้กับงานทุกด้านของการตลาด แต่การใช้แนวทางเฉพาะกับกรณีการใช้งานที่เล็กและรวดเร็วกว่าจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้ง สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน และเกิดการเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไปได้

นี่อาจหมายถึงการเริ่มต้นด้วยการปรับแต่งการใช้งานเฉพาะบุคคลด้วย AI ในการทำการตลาดผ่านอีเมลหรือการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์สำหรับการทำคะเเนนกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หรือการใช้ประโยชน์จากความสามารถด้าน AI เชิงสร้างสรรค์เพื่อช่วยปรับขนาดการสร้างเนื้อหาได้

ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะช่วยสร้างแรงผลักดันและการสนับสนุนสำหรับแอปพลิเคชัน AI เพื่อการประยุกต์ใช้ได้มากขึ้น

เตรียมสร้างระบบ MarTech ของคุณให้พร้อมสำหรับการขยายและการปรับตัวเปลี่ยนเเปลง

ก่อนที่คุณจะเริ่มรับรู้ถึงพลังของ AI ในการตลาดแบบ B2B การเพิ่มความสามารถพื้นฐานของชุดเครื่องมือที่คุณมีอยู่อย่างเต็มที่จึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบอัตโนมัติทางการตลาดและแพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)

หากคุณไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มที่มีความสามารถ AI ที่ติดตั้งมาด้วยในตัว ขั้นตอนต่อไปคือการประเมินสแต็กที่มีอยู่ของคุณว่าเข้ากันกับ AI หรือไม่

“ถามตัวเองดูว่า: เครื่องมือปัจจุบันของคุณสามารถรองรับ AI ได้หรือไม่?” คุณ López  กล่าว “พวกมันจะรองรับการทำงานในอนาคตได้ไหม? และถ้าไม่ จะต้องทำอย่างไรจึงจะไปถึงจุดนั้นได้? ขั้นตอนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างแผนงานที่รวม AI เข้าด้วยกันได้อย่างราบรื่นลงตัว

สุดท้าย การเลือกใช้เทคโนโลยีที่จะเติบโตไปพร้อมๆ กับเป้าหมายที่มุ่งมั่นด้าน AI ของคุณ พร้อมรองรับความก้าวหน้าในอนาคตโดยไม่สะดุด AI จะให้ความสำคัญกับความสามารถในการขยายขนาดและความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ โครงสร้างพื้นฐานของคุณจะต้องสามารถรองรับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและการประมวลผลที่ซับซ้อน ประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดที่เป็นหัวใจสำคัญของข้อเสนอ AI เกือบทุกรายการคือ "ทำงานได้เร็วกว่าและดียิ่งขึ้น" และคุณต้องแน่ใจว่าข้อเสนอจะยังคงอยู่ในขณะที่ทีมงาน ผู้ชม และเป้าหมายของคุณต่างกำลังเติบโตขึ้น

สร้างแผนงาน AI ที่ปรับขนาดได้และวัฒนธรรมที่เปิดกว้างสำหรับนวัตกรรม

คุณไม่สามารถจบงานได้จนกว่าคุณจะเริ่ม ดังนั้นในบางวิธีขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการกำหนดทิศทางและดำเนินการเริ่มต้นอย่างมีกลยุทธ์ ไม่ได้หมายความว่าคุณควรรีบเร่ง เพียงแต่ถึงเวลาที่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์เเล้วเท่านั้น คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเติมเชื้อเพลิงเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม และนั่นขึ้นอยู่กับ 2 สิ่ง: 1. วัฒนธรรม และ 2. กลยุทธ์

วัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นรากฐานของ AI ที่ประสบความสำเร็จในการใช้งานการตลาดเบบ B2B  ไม่ได้เกี่ยวกับความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเป็นหลัก เเต่ยังเกี่ยวกับความสนใจอยากรู้และการมีความรู้ความสามารถ คุณ López ได้อธิบาย

“นี่ไม่เกี่ยวกับการเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลในชั่วข้ามคืน แต่ต้องเเน่ใจว่าสามารถทำให้ทุกคนตั้งแต่นักออกแบบไปจนถึงนักการตลาดเเบบกลยุทธ์มีความรู้พื้นฐานด้าน AI ให้ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ เราเป็นหนี้ทีมของเราในการมอบสะพานเชื่อมสู่อนาคตนี้ให้พวกเค้า”

แต่ก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตัดสินใจของคุณได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลเท็จจริง ซึ่งแสดงถึงความรับผิดชอบทั่วทั้งทีม ในโลกของ AI การทำความเข้าใจและการตีความข้อมูลไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอาจต้องมีการประเมินทักษะและการฝึกอบรมเพื่อให้แน่ใจว่าทีมของคุณได้จัดเตรียมอย่างเหมาะสมเพื่อความสำเร็จ การดูแลให้ทุกคนมีความรู้เกี่ยวกับ AI และสามารถมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อ AI มีวิวัฒนาการ กลยุทธ์ของคุณควรปรับขนาดและปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น เพื่อให้การเดินทางราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งหมายถึงการกำหนดบรรทัดฐานสำคัญให้ชัดเจน ตั้งแต่การนำไปใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไปจนถึงการบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้มั่นใจว่าการเดินทางของคุณจะก้าวหน้าและสามารถปรับตัวได้

การทดลองก็มีความสำคัญเช่นกัน และเป็นวิธีเดียวที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการปรับปรุงผลลัพธ์ของคุณอย่างต่อเนื่อง ทดลองสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้จากความล้มเหลว และเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จ ด้วยขนาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากที่ AI มอบให้ เราจึงสามารถทดสอบได้มากขึ้น รวดเร็วขึ้น และมีค่าใช้จ่ายน้อยลง

สุดท้ายนี้ ควรส่งเสริมความหลากหลายในแนวทางของคุณ สิ่งนี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะภายในทีม แต่หมายถึงในด้านขอบเขต และภารกิจของโครงการบน AI ของคุณ มุมมองที่แตกต่างกันนำไปสู่โซลูชั่นนวัตกรรม และขอบเขตโครงการที่หลากหลายทำให้มั่นใจได้ว่าเรากำลังเรียนรู้และเติบโตไปได้ในทุกทิศทาง

หากคุณให้ความสำคัญกับความรู้ด้าน AI อย่างจริงจัง สมาชิกในทีมของคุณจะสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมในสาขาที่เชี่ยวชาญและช่วยให้การตัดสินใจของทีมโดยรวมเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ท้ายที่สุดแล้ว การนำ AI ไปสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้นำโดยคนเพียงคนเดียวหรือสองคนเท่านั้น แต่เป็นความพยายามของทั้งทีมอย่างแท้จริง

วิธีที่ Marketing Cloud Account Engagement สามารถช่วยเหลือการใช้งาน AI ในการตลาดเเบบ B2B

เมื่อคุณมีรากฐานด้านข้อมูลที่พร้อมแล้ว AI ของคุณก็จะเริ่มทำงานได้ เรามาดูตัวอย่าง Marketing Cloud Account Engagement กัน

AI สามารถช่วยระบุลูกค้าที่มีบัญชีมูลค่าสูงซึ่งคุ้มค่ากับเวลาและความพยายามสูงสุดของทีมของคุณ และให้คำแนะนำว่าควรติดต่อพวกเขาเมื่อใด อย่างไร และมากน้อยแค่ไหน AI สามารถทำได้ละเอียดจนสามารถใช้กับกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึงกันได้ด้วย และสามารถใช้ predictive AI เพื่อระบุเวลาในการส่งที่เหมาะสม หรือสร้างหัวเรื่องเฉพาะบุคคลด้วย generative AI ได้อีกด้วย

นี่คือวิธีที่ความสามารถของ AI ใน Marketing Cloud Account Engagement สามารถส่งเสริม การใช้ AI ของคุณในความพยายามการจัดการทางการตลาด B2B ได้

การสร้างเนื้อหา

หากคุณกำลังคิดหนักเพื่อสร้างหัวเรื่องอีเมลให้สะดุดตา หรือต้องการแนวคิดในการเขียนหน้า Landing Page ของคุณ? ด้วยเเนวทางการใช้ human-in-the-loop approach ความสามารถด้าน generative AI ในการมีส่วนร่วมบนบัญชี Marketing Cloud สามารถช่วยคุณได้

AI สามารถช่วยคุณเขียน:

• เนื้อหาอีเมล
• หัวเรื่องอีเมล
• หน้าแบบฟอร์ม
• หน้า Landing Page

แม้ว่าการมีมนุษย์คอยช่วยเหลืองานเหล่านี้ยังคงมีความสำคัญ (เชื่อเถอะว่าลูกค้าสามารถรับรู้ได้) แต่ AI ก็ยังสามารถเป็นผู้ช่วยทางการตลาดที่คุณไม่เคยรู้เลยว่าคุณต้องการมัน

การแบ่งกลุ่ม

ตอนนี้คุณได้จัดการหยุดไซโลขององค์กรในการรวบรวมข้อมูลของคุณและรวมข้อมูลลูกค้าทั้งหมดไว้ในที่เดียว ความสามารถ AI ของ Data Cloud จะสามารถทำให้ประหยัดเวลาและเงินโดยการแบ่งกลุ่มข้อมูลนั้นได้ ด้วยการแบ่งกลุ่มข้อมูลลูกค้า คุณจะสามารถสร้างแคมเปญที่ดีขึ้นซึ่งกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ชมที่เฉพาะเจาะจงได้

ในฐานะนักการตลาด คุณต้องการทราบว่าบัญชีลูกค้าเป้าหมายของคุณกำลังใกล้ที่จะสั่งซื้อมากเพียงใด เพื่อให้คุณสามารถตอบสนองพวกเค้าด้วยเนื้อหาที่เหมาะสมได้

AI สามารถแสดงแนวโน้มที่ลูกค้าเป้าหมายจะทำการซื้อได้ จากข้อมูลลูกค้าแบบรวมของคุณ คุณจะมีข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำความเข้าใจว่าลูกค้าเป้าหมายของคุณมีส่วนร่วมอย่างไร และสามารถทราบเหตุผลเบื้องหลังของคะแนนพฤติกรรมพวกเขา

คุณไม่จำเป็นต้องทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเองเพื่อดูว่าสิ่งใดได้ผลและสิ่งใดจะไม่ได้ผล นั่นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการใช้ AI ในการตลาดแบบ B2B โดยปล่อยให้ AI เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจจากข้อมูลเท็จจริงได้มากขึ้น

AI ใช้การเรียนรู้ของเครื่องมือเพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการที่มีส่วนร่วม เนื้อหา และลักษณะของผู้ชม เพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกให้กับแคมเปญของคุณ

โดยสรุปแล้ว การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับ AI ก็มีความสำคัญพอๆ กับการใช้งานจริง การมีกรอบการทำงานที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก AI มันจะทำให้คุณมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นทั้งในวันนี้และในอนาคต เพราะนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ขั้นต่อไปนั้นอยู่ไม่ไกลแค่เอื้อม!

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Salesforce ติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ คลิก