ความสุขเริ่มต้นขึ้นในที่ทำงาน: ความพึงพอใจของพนักงานนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และนอกเหนือจากนั้นได้อย่างไร

หลายคนน่าจะเคยประสบกับการทำงานล่วงเวลา เพราะปริมาณงานนั้นมากเกินจัดการได้ภายในเวลางาน น่าเสียดายที่กลุ่มคนที่ทำงานนี้มักจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เมื่อกระบวนการที่ได้รับการปรับปรุงต้องถูกพิจารณาในภายหลัง รายงานSmartsheet Future of Work Management ประจำปี 2023 พบว่าเมื่อโครงการผิดพลาด พวกเขาจะต้องแบกรับภาระหนัก พนักงานที่อยู่ในสภาวะเหล่านี้รายงานว่ามีความรู้สึกหงุดหงิด (58%) ความเหนื่อยหน่าย (31%) ความลำบากใจ (27%) ความโกรธ (26%) และขาดความกะตือรือร้น (25%) ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเเค่บางส่วน นอกจากนี้ ผู้คน 3 ใน 10 รายได้รายงานผลที่ตามมาโดยตรงทางอาชีพ เช่น การพลาดการเลื่อนตำแหน่ง เนื่องจากโครงการดำเนินการได้ไม่ดี ความจริงก็คือ ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในที่ทำงานเท่านั้น แต่ยังซึมลึกเข้าไปในแง่มุมต่างๆ ของชีวิตในบ้านด้วย และอาจส่งผลกระทบวงกว้างทั้งต่อสุขภาพจิตและความสุขโดยรวม

ในทางกลับกัน เมื่อสิ่งต่างๆ ในที่ทำงานเป็นไปด้วยดี พนักงานจะรายงานความพึงพอใจและมีส่วนร่วมในงานที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการทำงานด้วย เมื่อโครงการสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่น ผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขามีพลังมากขึ้นสำหรับความสัมพันธ์และกิจกรรมต่างๆถึง (36%) และใช้เวลาคิดเกี่ยวกับงานน้อยลงเมื่อสิ้นสุดวันทำงานถึง (30%) คนเหล่านั้นคือคนที่ได้กลับไปใช้ชีวิตส่วนตัว

ผลประโยชน์มากมายของการจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพ

มีผลประโยชน์มากมายสำหรับกระบวนการและไทม์ไลน์ต่างๆที่สามารถจัดการได้ รวมถึงการให้พื้นที่ว่างมากขึ้นแก่สมาชิกในทีมทุกระดับ และความสามารถที่ไม่เพียงแต่จะดำเนินการตามงานและโครงการที่มีอยู่เท่านั้น แต่ยังได้แสดงตัวตนที่ดีที่สุด ด้วยแนวคิดที่ดีที่สุดอีกด้วยในที่ทำงานคุณ Laura Murdock ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการของ Smartsheet กล่าวว่าเธอมักจะเห็นข้อมูลและแนวคิดที่มีคุณภาพจากสมาชิกในทีมของเธอในทีม PMO: “เมื่อผู้คนสามารถดำเนินงานได้อย่างดีที่สุด คุณจะเห็นผลลัพธ์จากวิธีที่ทีมเเก้ไขปัญหาเฉพาะได้" เธอกล่าว

เมื่อพนักงานมีความสุขและมีกำลังใจอยู่ในระดับสูง พวกเขาจะปลูกฝังบรรยากาศการสนับสนุนและการทำงานร่วมกันโดยธรรมชาติ และกลายเป็นทีมที่ความสัมพันธ์เเน่นเเฟ้น คุณ Murdock อธิบายว่า “เมื่อทุกอย่างไปได้ด้วยดี ทีมงานโครงการหลักจะพูดคุยกันอย่างเปิดเผยและข้อมูลจะถูกดำเนินราบรื่นอย่างชัดเจน มีการหยิบยกประเด็นปัญหาต่างๆตั้งแต่เนิ่นๆ และมีความชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายของพวกเขา” โดยรวมแล้ว เมื่อการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งที่ดี ผู้คนจะประสบความสำเร็จ เรียนรู้ และรู้สึกได้รับความนับถือ เธอกล่าวต่อว่า “คุณจะรู้สึกว่าคนกลุ่มนี้คอยสนับสนุนคุณจริงๆ และนั่นทำให้เกิดผลกระทบใหญ่ที่ทำให้เกิดสิ่งอื่นตามมาได้อีก มันขยายไปถึงความพึงพอใจในงาน และยังส่งผลต่อความรู้สึกและวิธีการตอบเมื่อมีคนถามเกี่ยวกับงานของคุณ”

ประโยชน์ต่างๆของกระบวนการที่ราบรื่นและโครงการที่ดำเนินการอย่างดีไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อพนักงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อทีมงานโครงการและแผนกโดยรวมอีกด้วย โครงการที่ดำเนินการอย่างดีมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เกิดความสัมพันธ์ในการทำงานที่ดีขึ้น ทั้งในหมู่เพื่อนร่วมงาน (47%) และผู้นำบริษัท (41%) ตามการศึกษาโดยรวมแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงการกล่าวว่า โครงการที่ดำเนินการอย่างดีส่งผลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (49%) คุณภาพงานสูงขึ้น (57%) และเพิ่มความร่วมมือในการทำงาน (40%) รวมทั้งทำให้ทีมสามารถตรงต่อเวลาได้ดีขึ้น ( 39%) และอยู่ในงบประมาณ (42%)

เจ้าของธุรกิจก็ได้รับผลประโยชน์ต่างๆด้วยเช่นกัน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ผลกระทบต่อรายได้ เมื่อผลผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนก็ลดลง และการสร้างรายได้ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น การลาออกของพนักงานลดลง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหาบุคคลากรและการฝึกอบรม เป็นสูตรสำเร็จทางการเงินเเบบง่ายๆ

กระบวนการที่มีประสิทธิภาพช่วยแก้ปัญหาในที่ทำงานและนอกเหนือจากนั้นได้อีกด้วย

กระบวนการจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าโครงการจะไปถึงเส้นชัยได้สำเร็จ แล้วอะไรจะช่วยให้งานระดับกลาง หรือ งานที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินการเพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงไปได้?

ประการแรก คือ การสื่อสารและความคาดหวังที่ชัดเจนช่วยให้พนักงานรู้ว่าต้องทำอะไรและเมื่อใด และช่วยขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันในทีมอย่างมีประสิทธิภาพ ไทม์ไลน์ที่ทำได้จริงและปริมาณงานที่สามารถจัดการได้ช่วยลดแรงกดดันในการดำเนินโครงการเหล่านั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังใจโดยรวมและปรับปรุงประสิทธิภาพของสมาชิกในทีม และเมื่อผู้คนรู้สึกว่าตนได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาและการเติบโตทางอาชีพ พวกเขาก็ทำงานได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนนั่นเอง

จากการวิจัยของเรา เมื่อโครงการได้รับการจัดการอย่างดี ผู้คนพบว่างานน่าพึงพอใจมากขึ้น (56%) ระดับความเครียดลดลง (54%) และพวกเขาสามารถควบคุมวันทำงานของตัวเองได้มากขึ้น (49%) โปรเจกต์

ที่ดำเนินไปอย่างราบรื่นยังช่วยให้สมาชิกในทีมมีสมาธิกับการมีส่วนร่วมในโปรเจกต์

ได้ดีขึ้นขณะทำงานถึง (42%)

นอกจากนี้ ผู้จัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งที่ทำงานในตำแหน่ง PM และผู้ที่ทำหน้าที่จัดการโครงการสำหรับโปรแกรมและงานต่างๆ ยังช่วยให้การใช้ชีวิตของทุกคนง่ายขึ้น และเพิ่มความไว้วางใจให้กับทีมและทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้สำหรับทุกคน พวกเขากำหนดความคาดหวังที่ชัดเจนไว้ล่วงหน้า และยังคงมีส่วนร่วมในการสนทนาและการประชุม เพื่อให้เกิดความเข้าใจขอบเขตทั้งหมดของโครงการได้อย่างดีที่สุด และที่สำคัญที่สุด คือ พวกเขารู้วิธีถามคำถามที่ถูกต้องและสามารถขจัดความคลุมเครือออก เพื่อช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันเพื่อข้ามเส้นชัยได้ ทุกแง่มุมเหล่านี้ช่วยให้โครงการดำเนินไปได้ดียิ่งขึ้น และนั่นจะสร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับผู้ที่พยายามมโฟกัสไปที่การทำงานในที่ทำงาน ไม่ใช่ด้านนอกของที่ทำงาน

เป็นที่ชัดเจนว่าองค์กรที่จัดลำดับความสำคัญของโครงการสามารถดำเนินการได้อย่างดี การสื่อสารที่ชัดเจน การตั้งความคาดหวังที่ทำได้จริง และการสนับสนุนการเติบโตและความสุขของพนักงาน จะได้รับผลประโยชน์มากมาย ซึ่งรวมถึง:

• เพิ่มความพึงพอใจในงาน การมีส่วนร่วม การเก็บรักษา และประสิทธิภาพการทำงาน
• ลดอารมณ์เชิงลบ เช่น ความหงุดหงิด ความฟุ้งซ่าน และความเหนื่อยหน่าย
• การดำเนินโครงการราบรื่นและประสบความสำเร็จมากขึ้น
• ความสัมพันธ์ในการทำงานและการทำงานร่วมกันในทีมที่ดีขึ้น
• ความเป็นอยู่ส่วนบุคคลและความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่ดีขึ้น

ด้วยการประเมินมูลค่าการดำเนินโครงการที่มีประสิทธิภาพและความสุขของพนักงาน หลายองค์กรต่าง เลือกที่จะปูทางสู่ความสำเร็จสำหรับทั้งบุคคลและองค์กรโดยรวม Smartsheet คือ แพลตฟอร์มการจัดการงานการทำงานร่วมกันชั้นนำ ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถวางแผน จัดการ ทำงานอัตโนมัติ และรายงานภาพรวมของงาน ช่วยให้พนักงานดำเนินการได้เร็วขึ้น ขับเคลื่อนนวัตกรรม และบรรลุผลสำเร็จมากขึ้น แพลตฟอร์มที่มีความยืนหยุ่นสูง และปลอดภัย Smartsheet ถูกใช้โดยบริษัทชั้นนำมากกว่า 75% ใน Fortune 500 เพื่อนำไปใช้ จัดการ และทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติในกรณีการใช้งานที่หลากหลาย

ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ Smartsheet เพิ่มเติม คลิก