ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีได้มากกว่าที่เคยด้วยการเปิดตัว CRM Analytics Spring’23
อัพเดทใหม่ล่าสุดที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จาก Salesforce Data Cloud และ CRM Analytics ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ด้วย CRM Analytics ที่ปล่อยออกมาใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี’23 นี้ คุณจะสามารถใช้งาน Salesforce Data Cloud ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, เพิ่มวิธีการพัฒนาผลการทำงานด้วย AI,พร้อมด้วยแพลตฟอร์มการใช้งานที่ดีกว่าแต่ก่อน และอื่นๆอีกมากมาย
และนี่คือคือฟีเจอร์อันน่าจับตาที่ออกใหม่ในครั้งนี้:
- ใช้ประโยชน์จาก AI-driven insights และระบุแอคเคาท์ที่มีความเสี่ยง รวมถึงแอคเคาท์ที่มีศักยภาพในการพัฒนามูลค่าได้ด้วย Account Discovery
- ใช้งานข้อมูลลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย Salesforce Data Cloud (เดิมรู้จักกันในชื่อ CDP)
- สร้างประสบการณ์ What-if ได้ง่าย ๆ เพียงการคลิกไม่ต้องใช้โค้ดด้วย input widget ฉบับปรับปรุงใหม่
- Einstein Discovery Model Queuing จะช่วยให้คุณสร้างโมเดล Einstein ได้พร้อมกันหลาย ๆ รุ่นโดยปราศจากข้อผิดพลาด
- ก้าวเข้าสู่แพลตฟอร์มข้อมูลใหม่ของ CRM Analytics และเปลี่ยน data flows ของคุณให้เป็น recipes ด้วย Data Prep ปรับปรุงใหม่
รักษาและขยายความสัมพันธ์ของลูกค้าให้มากขึ้นด้วย Account Discovery
Account Discovery เป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Revenue Intelligence สำหรับใช้งานใน Sales Cloud ด้วยฟีเจอร์ดังกล่าวทำให้คุณสามารถติดตามสุขภาพของแอคเคาท์แต่ละบัญชีได้ว่ามีศักยภาพในการเติบโตหรือมีความเสี่ยง อีกทั้งยังมีแดชบอร์ด Out-Of-The-Box และโมเดล Einstein Discovery ที่ปรับแต่งได้ตามชุดสัญญาณจำนวนมาก ทั้งหมดนี้ใช้งานได้ผ่านทาง Revenue Intelligence
ด้วยการใช้งานมุมมองตามลำดับความสำคัญ ทีมขายจะสามารถระบุแอคเคาท์ศักยภาพสูงที่เสี่ยงต่อการเลิกจ้าง, ปรับปรุงอัตราการต่ออายุตามคำแนะนำจาก AI, และระบุโอกาสในการขายแบบต่อยอด และการขายแบบต่อเนื่องโดยอ้างอิงจากประวัติของลูกค้าได้
ฟีเจอร์นี้จะเข้ามาเติมเต็มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของความพยายามในการขยายการขายให้กับบริษัท ช่วยพัฒนาอัตราการต่ออายุ, ลดรอบการขาย, และเพิ่มรายได้
แชร์ Insights จาก Salesforce Data Cloud ได้ในคลิกเดียวด้วย Single-Click Exploration
ใน CRM Analytics คุณสามารถสำรวจและตรวจสอบข้อมูลใน Salesforce Data Cloud (เดิมคือ CDP) ได้ในคลิกเดียว ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณวิเคราะห์ และแสดงภาพข้อมูลของลูกค้าได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่จำเป็นต้องเขียนข้อความค้นหาที่ซับซ้อนด้วยตัวเอง
ฟีเจอร์ Single-Click Exploration คุณจะได้มีส่วนร่วมโดยตรงกับการแสดงภาพและตารางข้อมูลที่สร้างขึ้นจากข้อมูลใน Data Cloud คุณจะเข้าถึง Insights ได้อย่างรวดเร็ว สามารถระบุแนวโน้มในข้อมูลของลูกค้าด้วยการเจาะเข้าไปในชุดข้อมูลเฉพาะ, กรองข้อมูลทั้งหลายตามเกณฑ์ที่ต้องการ และดูชุดข้อมูลอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถเก็บและติดตาม Insights สำคัญๆ โดยเพิ่มข้อมูลดังกล่าวเข้ามาในคอลเลคชั่นได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถแชร์ข้อมูลเหล่านี้ให้กับทีมของคุณผ่านการแชร์ URL หรือคอลเลคชั่นที่มาของข้อมูล
เป้าหมายของฟีเจอร์นี้ คือ ให้ธุรกิจสามารถเข้าถึง และวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้อย่างง่ายดาย และสามารถใช้งานได้โดยคนทั่วไป
วิเคราห์ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ด้วยการสร้างสถานการณ์สมมุติ
สถานการณ์แบบ “What-if” ช่วยในการค้นหาทางเลือกอื่นๆ และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ Input Widgets เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างการวิเคราะห์แบบ “What-if” ขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายต่อผู้ใช้งานในการเปลี่ยน Inputs และแสดงผลลัพธ์ให้เห็นได้แบบเรียลไทม์
Input Widget ทำให้คุณสร้างสถานการณ์สมมุติขึ้นเพื่อทดสอบผลลัพธ์ได้อย่างหลากหลาย โดยรูปแบบของ Input Widget มีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ใส่เข้ามา อย่างเช่น FreeForm ใช้ในการป้อนค่า หรือ Slider สำหรับค่าต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น ในการวางแผนการเงิน คุณจะเปลี่ยนมูลค่าของรายได้และค่าใช้จ่ายเพื่อให้เห็นถึงผลกระทบต่อเงินออมที่คาดการณ์ไว้ หรือคุณอาจเปลี่ยนค่าเปอร์เซ็นต์เงินคืนเพื่อประเมินผลกำไรโดยรวม คุณยังสามารถเปลี่ยนค่าในตัวแปรด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพื่อดูผลกระทบที่มีต่ออุณหภูมิโลก และรูปแบบฝนได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้ Input Widgets จะช่วยให้คุณเข้าถึงสถานการณ์สมมุติหลากหลายรูปแบบ และช่วยวิเคราะห์ผลกระทบจาก Inputs ต่างๆได้โดยวิธีที่มีทั้งความยืดหยุ่นและใช้งานง่าย
ในการเปิดตัวรอบที่ผ่านมา นักพัฒนาของทาง Salesforce ต้องใช้ Bindings ในการเชื่อมโยงค่า Input และสร้างบทวิเคราะห์แบบ What-if อย่างไรก็ตามในการเปิดตัวฤดูใบไม้ผลิ ปี’ 23 ครั้งนี้ เราได้นำเอากำแพงทางเทคนิคออก โดยอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่ม Input Field เป็นคอลัมน์ได้โดยตรงในช่องข้อมูลทั้งหมดด้วยการคลิกเท่านั้นไม่จำเป็นต้องใช้โค้ด
จัดคิวโมเดล Einstein Discovery ได้หลายรูปแบบพร้อมกัน
ด้วย Einstein Discovery Model Queuing คุณจะสามารถสร้างโมเดลได้หลากหลายรูปแบบในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาขัดข้องใดๆ เลย คุณไม่ต้องรอให้โมเดลทำงานจนเสร็จก็รันคิวให้โมเดลต่อไปได้เลยทันที โมเดลทุกอันจะถูกส่งเข้าไปในระบบการทำงานตามลำดับ
ก่อนหน้านี้ การรันโมเดลถูกจำกัดอยู่ที่สองโมเดลโดยไม่คำนึงเรื่องลำดับ แต่ด้วยระบบ Model Queuing คุณสามารถรันคิวได้พร้อมกันถึงเจ็ดโมเดลเลยทีเดียว คุณยังสามารถจัดลำดับความสำคัญและจัดการการทำงานของโมเดลต่างๆ ได้ภายใน Einstein Discovery แพลตฟอร์มดังกล่าวมีช่องทางให้คุณสอดส่องดูแลสเตตัสของแต่ละโมเดลที่อยู่ทั้งในคิวและในกระบวนการทำงานได้
ต่อไปนี้คุณก็สามารถสร้างเทมเพลตที่มีมากกว่าสองสตอรี่ (ค่าเบื้องต้น) ได้แล้ว เนื่องจากระบบคิวเปิดให้ใช้งานได้ จึงเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการใช้งาน Revenue Intelligence และ Analytics Apps ต่างๆที่มีเทมเพลตพร้อมด้วยสตอรี่อยู่จำนวนมาก
เปลี่ยนโฉม Data Flows ของคุณให้กลายเป็น Recipes
เผยโฉมพลังของแพลตฟอร์มข้อมูลรูปแบบใหม่สำหรับ CRM Analytics ตอนนี้คุณสามารถเปลี่ยน Data Flows ให้กลายเป็น Recipes ได้อย่างรวดเร็ว ใน Data Manager คุณจะพบตัวเลือก “เปลี่ยนเป็น Recipes” ใน Dataflows
ในอนาคตอันใกล้ เราจะหยุดการทำงานของ Dataflows ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นใช้งาน Recipesได้เลยเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ด้วย Recipes คุณจะใช้งานการเปลี่ยนแปลงแมชชีนเลิร์นนิ่งได้ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ความคิดเห็น, การจัดกลุ่ม, การคาดการณ์อนุกรมเวลา, และฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Joints, Aggregates และอื่นๆที่ไม่สามารถใช้งานได้ใน Data Flows ( หมายเหตุ: ไม่รองรับพารามิเตอร์บางตัว ดูเพิ่มเติมได้ที่ Dataflow conversion mapping )
Data Flows ยังไม่ได้หายไปทั้งหมด คุณยังเข้าถึง Data Flows ได้ผ่านทาง UI ซึ่งจะไม่ถูกแตะต้องใดๆ ในตอนที่ ฑecipes ใหม่ถูกสร้างขึ้น Data Flows ตัวออริจินัลที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลง และกำหนดการซิงค์ข้อมูลก็จะยังคงไว้ดังเดิม
คุณสามารถเปลี่ยนแปลง Data Flow ได้หลายครั้งโดยแทนที่ด้วย Recipe ที่เกี่ยวข้องในทุกๆการเปลี่ยนแปลง
CRM Analytics ฤดูใบไม้ผลิ ปี’23 เปิดให้ใช้งานได้แล้ววันนี้ ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ๆได้ที่ CRM Analytics Spring ‘23 Release หรือ ติดต่อทีมของเราได้ที่นี่ คลิก