API สามารถช่วยคุณสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นกับลูกค้าได้อย่างไร?

การเติบโตของการค้าดิจิทัลและการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าในหลายช่องทาง ทำให้ผู้ค้าปลีกต้องลงทุนเพิ่มเติมในการปรับเปลี่ยนให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม การสร้างประสบการณ์ทางการค้าที่สมบูรณ์จะเกิดขึ้นได้เมื่อได้รับการสนับสนุนจากทีม IT ในการรวมระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน

ต่อไปนี้คือขั้นตอนต่างๆที่องค์กรของคุณสามารถนำไปใช้เพื่อใช้ประโยชน์จากการค้าปลีกที่สมบูรณ์

#1 วางแผนด้วยข้อมูลอินไซต์

การเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดทางสังคมและเทคโนโลยีกำลังพลิกโฉมการค้าปลีก ด้วยวงจรการซื้อที่สั้นลง การวางแผนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเราจึงมองว่านั่นคือส่วนสำคัญในการบรรลุความคล่องตัวทางธุรกิจ ผู้ค้าปลีกไม่สามารถสูญเสียผลกำไรซึ่งได้มาเพียงเล็กน้อย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมข้อมูลและการคาดคะเนที่แม่นยำควรเข้าถึงทุกแง่มุมของธุรกิจค้าปลีก

เพื่อให้การวางแผนที่มีประสิทธิภาพ คุณต้องสร้างมุมมองเดียวของลูกค้าและใช้ข้อมูลทั้งหมดที่ลูกค้าแต่ละราย สร้างขึ้นเป็นพื้นฐานของการวางของกลยุทธ์ การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์ เพื่อการวางกลยุทธ์ผ่านการรวมระบบโดย API จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถออกจากระบบเดิมและปรับเตรียมโครงสร้างพื้นฐานให้เข้ากับระบบเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตไปพร้อมกับความคาดหวังจากลูกค้า

#2 ซื้อสินค้าคงคลังที่เหมาะสม

ระบบของการค้าปลีกนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อน และยังถูกคั่นด้วยการแข่งขันต่างๆ ทำให้การในการตัดสินใจซื้อต้องมีข้อมูล คุณต้องเห็นสินค้าคงคลังที่เป็นไปตามค่ากำหนดของผู้บริโภค ด้วยการรวมแหล่งข้อมูลการขายปลีกต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้คุณสามารถปรับปรุงการตัดสินใจและมุ่งเน้นไปที่การซื้อสินค้าคงคลังที่เหมาะสม ด้วยวิธีการรวมระบบโดย API ระบบที่แยกจากกันจะถูกเชื่อมโยงและประกอบขึ้นเพื่อแจ้งสถานะของมุมมองการขายแบบแบบเรียลไทม์ ระดับสินค้าคงคลัง และใบสั่งซื้อ การแบ่งปันข้อมูลนี้ จะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นทั้งในส่วนของระบบหน้าบ้านและหลังบ้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตและทำให้กระบวนการซื้อง่ายขึ้น

#3 การจัดการและเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

ความคาดหวังของลูกค้าใหม่เป็นกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความเร็วและการมองเห็นทั้งซัพพลายเชน ในการตอบสนองของลูกค้านั้น ทีมไอทีมักใช้โซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งค่อนข้างใช้เวลานาน ทำให้จำนวนงานที่ค้างมีมากขึ้นและส่งผลให้ฝ่ายไอทีสูญเสียความสามารถในการส่งมอบโซลูชั่นให้กับธุรกิจได้อย่างตรงเวลา

เนื่องจากการจัดการซัพพลายเชนมีความเป็นสากล ซับซ้อน และมีหลากหลาย การใช้เครื่องมือและข้อมูลมากกว่าที่เคย เพื่อช่วยให้คุณเคลื่อนไปข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แนวทางการเชื่อมต่อที่นำโดย API ในซัพพลายเชนมีความยืดหยุ่นในการทำงาน ในแง่ของการทำงานกับพันธมิตรที่แตกต่างกันและง่ายที่จะเปิดเผยข้อมูลการอัพเดตต่างๆ ในขณะที่ยังคงควบคุมระบบ ERP เป็นหลัก

#4 การขายด้วยการประสบการณ์ร่วมที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลส่งผลกระทบอย่างมากต่อการขาย ซึ่งขอบเขตได้ขยายออกไปไม่เพียงแต่การดำเนินงานของร้านค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอีคอมเมิร์ซ การตลาด การสร้างลอยัลตี้ และการบริการ ด้วยลูกค้าเริ่มใช้งานทางด้านดิจิทัลมากขึ้น ความต้องการจึงเพิ่มขึ้น ประสบการณ์การซื้อที่เป็นส่วนตัวก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ทำให้ความคาดหวังของผู้ซื้อมีการเปลี่ยนแปลง คุณจึงไม่สามารถพึ่งพาการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อีกต่อไป แต่คุณต้องสลับมุมมองเพื่อเสนอประสบการณ์ที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านของคุณและมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น

แนวทางโดย API ช่วยให้คุณเชื่อมระบบเก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างราบรื่น เพื่อทำให้การสื่อสารหลายช่องทางสมบูรณ์ และตอบสนองลูกค้าไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ด้วยการผลักดันการนำ API มาใช้ซ้ำ คุณสามารถให้บริการอย่างรวดเร็วในทุกด้านตามที่ลูกค้าคาดหวังได้

เรียนรู้เพิ่มเติมกับ API และ Mulesoft ติดต่อเราได้ที่ https://www.beryl8.com/th/contact-us