ทุกวันนี้คุณเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับงานเหล่านี้อยู่หรือไม่ นั่งตอบเมล พิมพ์เอกสาร สร้างแผนภูมิ จัดทำสไลด์ คงจะดีไม่น้อยหากมีผู้ช่วยที่ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานเหล่านี้ลง ทำให้มีเวลาสร้างสรรค์งานอื่นๆ มากขึ้น

G Suite ได้นำเทคโนโลยี Machine Intelligence มาใช้ โดยระบบสามารถตอบสนองกับข้อมูลจริงได้ตามสถานการณ์ ซึ่งการตอบสนองนี้มาในรูปแบบของการช่วยทำงานบางส่วนแทนผู้ใช้ และผู้ใช้สามารถเลือกที่จะรับงานนั้นมาใช้หรือไม่ใช้ได้ ด้วยความอัจฉริยะนี้จะช่วยลดระยะเวลาทำงานลง ทำให้ร่นเวลาในการทำงานลงแต่ได้ผลงานที่ดีมากขึ้น

 

Smart Reply

เป็นฟีเจอร์ใน Gmail ที่ใช้ได้ทั้งใน iOS และ Android โดยระบบจะทำความเข้าใจเนื้อหา คาดเดาการตอบสนองที่เป็นไปได้ และนำเสนอข้อความสำหรับตอบกลับแบบสั้นให้เลือก 3 ข้อความ ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะตอบด้วยข้อความที่ระบบคิดมาให้หรือจะแก้ไขเพิ่มเติมข้อความเข้าไปเอง ด้วยระบบ Smart Reply ทำให้ใช้เวลาในการโต้ตอบอีเมลน้อยลง เนื่องจากไม่ต้องพิมพ์ข้อความเองทั้งหมด

 

Smart Compose

เป็นฟีเจอร์ใน Gmail ที่ช่วยคาดการณ์ว่าผู้เขียนอีเมลน่าจะต้องการเขียนว่าอะไร โดยพิจารณาจากบริบทของสิ่งท่ีผู้เขียนพิมพ์ไปก่อนหน้า Smart compose ใช้งานง่ายๆ แค่พิมพ์อีเมลของเราไปตามปกติ เพียงแค่พิมพ์เริ่มต้นประโยค ระบบจะขึ้นคำแนะนำของประโยคทั้งหมดที่เหลือเป็นตัวจางๆ ให้เราดูก่อน ถ้าเป็นประโยคที่เราต้องการพิมพ์ เพียงแค่กดปุ่ม tab ระบบก็จะเขียนประโยคที่เหลือให้จนสมบูรณ์แบบ (คล้ายกับ auto-complete เวลาที่เราค้นหาอะไรสักอย่างบน Google) แต่ถ้าประโยคที่ให้มาไม่ตรงใจ เราก็แค่พิมพ์ประโยคของเราต่อไป

Smart Compose ไม่เพียงแต่จะเรียนรู้การใช้งานของเราเท่านั้น แต่มันยังสามารถนำเอาบริบทต่างๆ มาคิดคำนวณเพื่อช่วยอ่านใจเราให้ดีขึ้นด้วย อย่างเช่น วัน เวลา ฤดูกาล ยกตัวอย่างถ้าหากเราพิมพ์อีเมลในวันศุกร์ Smart Reply อาจจะเสนอคำว่า Have a great weekend! ขึ้นมาให้เป็นตัวเลือกของการจบอีเมลก็ได้ หรือถ้าอยู่ในช่วงคริสต์มาส คำว่า Merry Christmas! ก็อาจจะโผล่ขึ้นมาให้เราเลือก เป็นต้น ซึ่งถ้าหากใช้ฟีเจอร์นี้จนคุ้นเคย ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการเขียนอีเมลไปได้มากแต่ระบบจะเรียนรู้จากบทสนทนาที่เราใช้บ่อยๆ และนำมาเสนอเพื่อเขียนอีเมลในครั้งต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ต้องส่งอีเมลที่ใช้ภาษาคล้ายๆ กันทุกฉบับ หรือในกรณีของผู้ใช้ที่ต้องตอบอีเมลภาษาอังกฤษบ่อยๆ และไม่ได้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษมาก ฟีเจอร์นี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่ช่วยคุณเขียนอีเมลด้วยภาษาที่สละสลวย แล้วคุณจะเสียเวลาในการเขียนอีเมลน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีตัวช่วยที่ดีอย่าง Smart Compose

 

Spelling and Grammar

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ จากเดิมที่ตรวจการสะกดคำเพียงอย่างเดียว หากคำไหนสะกดผิดจะปรากฏขีดเส้นใต้สีฟ้าใต้ข้อความนั้นๆ เมื่อกด AI จะแนะนำคำที่ถูกต้องให้ ไม่เพียงแค่ตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษระดับพื้นฐาน อย่างการใช้ ‘a’ และ ‘an’ ให้ถูกต้อง แต่สามารถตรวจสอบไปจนถึงไวยากรณ์ ภาษาอังกฤษระดับซับซ้อน อย่างการแจกแจงประโยคและอนุประโยคได้

 

Explore in Google Docs, Sheet and Slide

ความสามารถ Explore ช่วยให้การทำงานของเราง่ายและรวดเร็วขึ้น เมื่อผู้ใช้งานกดปุ่ม Explore ระบบจะทำความเข้าใจเนื้อหาในเอกสาร เช่น รูปภาพ แหล่งอ้างอิง quote แผนภูมิ รูปภาพต่างๆ และนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องมาให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกหยิบไปใช้ได้ทันที

ในด้านของ Google Slide นั้น Explore จะช่วยนำเสนอ “การจัดวาง” วัตถุในหน้า Slide ให้สวยงาม โดยผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลามานั่งจัดวางองค์ประกอบทั้งหมดเอง สิ่งที่ Explore นำเสนอนั้น ไม่ใช่ theme หรือ template ที่มีการจัดวางแบบตายตัว แต่ Explore จะตรวจสอบเนื้อหาใน Slide และนำเสนอรูปแบบที่เหมาะสม หากเรามีการเพิ่มวัตถุเข้าไป เช่น รูปภาพ หรือข้อความ รูปแบบที่ Explore นำมาให้เลือกก็จะถูกปรับให้เหมาะสมกับเนื้อหาใหม่ โดยยังคงความสวยงามเช่นเดิม

นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการเอกสาร เรายังสามารถพิมพ์คำถามเพื่อให้ Explore นำไปคำนวณเป็นคำตอบมาให้ได้ทันที เช่น ถ้าอยากรู้ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน เราสามารถพิมพ์ “Average Sales per month” ระบบจะคำนวณและแสดงยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนมาให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งวิธีเดิมต้องมานั่งลากครอบข้อมูลและใส่สูตรหาค่าเฉลี่ย

 

Quick Access in Drive

ฟีเจอร์นี้เป็นเครื่องมือที่ใช้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการค้นหาข้อมูลได้มากถึง 50% โดยแนะนำไฟล์เอกสารที่คุณต้องการ ซึ่งอ้างอิงจากกิจกรรมที่คุณทำบ่อยๆ บน Google Drive หรือข้อมูลในไฟล์เอกสารที่เปิดดูบ่อย เพื่อให้คุณสามารถทำงานกับข้อมูลล่าสุดและสร้างเนื้อหาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

 

Smart Scheduling

ให้การนัดหมายการประชุมเป็นเรื่องง่ายขึ้น ด้วยผู้ช่วยอัจฉริยะในการจัดตารางเวลา สามารถเรียกดูปฏิทินหลายรายการได้ในหน้าจอเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการเช็คตารางว่างของทุกคนก่อนเชิญประชุม ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการนัดหมาย นอกจากนี้ระบบยังช่วยแนะนำห้องประชุมที่ว่างโดยอัตโนมัติ ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถเรียกดูข้อมูลสถานที่ จำนวนคนที่สามารถจุได้ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องประชุม พร้อมการแจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อไม่ให้คุณพลาดการประชุม

 

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจ แต่ละธุรกิจจึงต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้รวดเร็วที่สุดเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีเอาไว้ G Suite จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดระยะเวลาทำงานในบางขั้นตอนลง เพื่อให้คุณมีเวลาในการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในการสนับสนุนการทำงานร่วมกันและมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกจาก Google คุณจึงมั่นใจได้ว่าทุกไอเดียจะเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างรวดเร็วและไม่รั่วไหล